ศปถ. กำชับเข้มงวดพฤติกรรม เสี่ยงขับรถเร็ว - ดูแลความปลอดภัย ในการเดินทางต่อเนื่อง ...

วันนี้ (4 ม.ค.66) ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2566 สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 3 มกราคม 2566 เกิดอุบัติเหตุ 239 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 259 คน ผู้เสียชีวิต 15 ราย สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 6 วันของการรณรงค์ (29 ธ.ค.65 – 3 ม.ค.66) เกิดอุบัติเหตุรวม 2,201 ครั้ง ผู้บาดเจ็บรวม 2,197 ราย ผู้เสียชีวิตรวม 282 ราย จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 6 จังหวัด กำชับจังหวัดและกรุงเทพมหานครเข้มงวดผู้ขับขี่ที่ขับรถด้วยความเร็วสูง เพื่อควบคุมการใช้ความเร็วที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุรุนแรง เน้นย้ำดูแลความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนอย่างต่อเนื่อง

นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานการประชุมคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี เปิดเผยว่า.. ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2566 โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและความร่วมมือของหน่วยงานภาคีเครือข่ายได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 3 มกราคม 2566 ซึ่งเป็นวันที่หกของการรณรงค์ “ ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ ” เกิดอุบัติเหตุ 239 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 259 คน ผู้เสียชีวิต 15 ราย สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็ว ร้อยละ 38.49 ตัดหน้ากระชั้นชิด ร้อยละ 24.27 ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 15.48 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 82.73 ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง ร้อยละ 86.61 ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 48.12 ถนนใน อบต./หมู่บ้านร้อยละ 24.27 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 18.01 – 19.00 น. ร้อยละ 9.21 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดอยู่ในช่วงอายุ 40 - 49 ปี ร้อยละ 16.79 มีการจัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,880 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 55,787 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 365,238 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดีรวม 54,629 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 15,873 ราย ไม่มีใบขับขี่ 15,494 ราย ขับรถเร็วเกินกำหนด 7,384 ราย โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่  นครศรีธรรมราช (12 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช (12 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา และภูเก็ต (จังหวัดละ 2 ราย) 

สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 6 วันของการรณรงค์ (29 ธ.ค.65 – 3 ม.ค.66) เกิดอุบัติเหตุรวม 2,201 ครั้ง ผู้บาดเจ็บรวม 2,197 คน ผู้เสียชีวิตรวม 282 ราย จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุดได้แก่ นครศรีธรรมราช (76 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช (81 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงราย (13 ราย) กรุงเทพมหานครและปทุมธานี (จังหวัดละ 11 ราย) จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 6 จังหวัด ได้แก่ นราธิวาส บึงกาฬ พังงา ยะลา สตูล และสุโขทัย โดยจากสถิติในช่วง 6 วันที่ผ่านมา พบว่า การขับเร็ว เป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุทางถนน มีอัตราการบาดเจ็บและเสียชีวิตสูง ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจึงได้กำชับจังหวัดและกรุงเทพมหานครเข้มงวดผู้ขับขี่ที่ขับรถด้วยความเร็วสูง เพื่อควบคุมการใช้ความเร็วที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุรุนแรง อย่างไรก็ตาม คาดว่าเส้นทางสายหลักบางเส้นทางจะยังคงมีปริมาณการจราจรหนาแน่นในบางจุด จึงได้เน้นย้ำให้จังหวัดดูแลความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนอย่างต่อเนื่อง เพื่ออำนวยการจราจรและดูแลความปลอดภัยแก่ประชาชนตลอดเส้นทาง

นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า.. วันนี้ประชาชนส่วนใหญ่ได้เดินทางกลับจากภูมิลำเนาและท่องเที่ยวแล้ว หลายเส้นทางเริ่มมีปริมาณรถน้อย โดยเฉพาะถนนสายหลักของจังหวัดใหญ่และเส้นทางจากภูมิภาคต่างๆ เข้าสู่กรุงเทพฯ ทำให้ผู้ขับขี่สามารถใช้ความเร็วสูง จึงขอฝากผู้ขับขี่ปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด ไม่ขับรถ ไม่ประมาท ไม่ขับรถด้วยความคึกคะนอง คำนึงถึงความปลอดภัยของตนเองและผู้ร่วมใช้เส้นทางเป็นหลัก เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุรุนแรง 






หากประสบหรือพบเห็นอุบัติเหตุ สามารถแจ้งเหตุได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 หรือแจ้งเหตุ ทางไลน์ “ ปภ.รับแจ้งเหตุ1784 ” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป ...

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท. ร่วมมือกับ บขส. จัดรถนำเที่ยวฟรี 10 วัน โอกาสครั้งสำคัญ เปิดกรุ มรดกธรรมล้ำค่าแห่งยุครัตนโกสินทร์ เส้นทางเที่ยวชมโบราณวัตถุล้ำค่าที่หาดูได้ยากกับกิจกรรม “ เป็นบุญตา ครั้งหนึ่งในชีวิต ”

สมาคมการค้าโกโก้และช็อกโกแลตไทย (TACCO) แถลงข่าวการจัดตั้งสมาคมการค้าโกโก้และช็อกโกแลตไทย พร้อมเปิดตัว งาน Thailand Craft Chocolate Fest’24 ...

ค้าน ! ขึ้นค่าแรง 400 บาท พร้อมกันทั่วประเทศ .. 17 สภาองค์การนายจ้าง แสดงจุดยืนร่วมกันคัดค้าน การขึ้นค่าแรง 400 บาททั่วประเทศ ...